วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

ความประทับใจที่แตกต่าง








เพื่อนที่ผมประทับใจ
เมื่อปี 2547มีรายการประกวดร้องเพลงทางช่อง 9 เป็นรายการที่คนดูต้องให้คะแนนนักร้องทางหมายเลขโทรศัพท์ซึ่งเพื่อนของกระผมได้เข้าประกวดในรายการที่มีชื่อว่า the star เป็นรายการประกวดร้องเพลงที่คัดเอานักร้องที่มาสมัครทั่วประเทศทั่วทุกภาคของเมืองไทยคัดเพื่อเข้ารอบแค่แปดคนสุดท้ายและหาแชมป์เพียงคนเดีย
จากวันนั้นเมื่อเสียงพิธีกรบนเวทีประกาศผลการแข่งขันเสียที่ทุกคนยากทราบและอยากจะรู้ผลการแข่งขัน เสียงที่ทุกคนได้ยินคือ "the star ค้นฟ้าคว้าดาว คนแรกของเมืองไทยได้แก่ คุณ สนธยา ชิตมณี"เมื่อย้อนกลับไปในสมัยวัยเรียนที่สนธยา เรียนโรงเรียนเดียวกัน ผมอายุแก่กว่าสนธยา 3ปี เห็นเขาชอบร้องเพลง เล่นกีตาร์ ให้เพื่อนๆฟังแอบนึกอยู่ในใจว่า "มันเก่งวะ"และไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำงานด้วยกัน สนธยากับกระผมร้องเพลงตามร้านอาหารในตัวเมืองหาดใหญ๋ จากความสามารถบวกกับมุกตรกบนเวทีจึงทำให้สนธยาเป็นที่รู้จักในวงการนักร้องเพลงเพื่อชีวิตในหาดใหญ่
ความประทับใจที่อยากจะบอกถึงเพื่อนที่ชื่อว่าสนธยา ชิตมณี คือ สนเป็นคนที่กระผมชักชวนให้เขาเข้ามาเล่นดนตรีในหาดใหญ่เพราะเห็นถึงความสามารถ และมีความตั้งใจในการทำงาน อดีตสนเป็นคนเกเร เคยติดยา ขี้เมาแต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 10 ปีที่อยู่ในวงการร้องเพลงกลางคืนทำให้สนธยาเติบโต จนมีอะไรดีๆ เข้ามาจนถึงทุกวันนี้ มีงานละคร และงานภาพยนตร์ ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาจนถึงทุกวันนี้


"การให้โอกาสคนทุกคนถือว่าเป็นการสร้างผลผลิตของสังคม"

"ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถที่คนเราทำไม่ได้"

"การเป็นตัวของตัวเองและมีจุดยีนที่ถูกต้องทำให้เรามีผลสำเร็จ"




ครอบครัวและเพื่อนของผม

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญของคนทุกคนถ้าเรามีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนทุกอย่างก็จะประสพความสำเร็จ กระผมมีโอกาสได้รับการศึกษาในระดับปริญญาตรีในขณะที่กระผมเล่นดนตรีควบคู่ไปด้วย กระผมมีแรงบันดาลใจจากลุงของผม "จะเล่นดนตรีไปตลอดเหรอ หม้ายคิดจะทำงานไออื่นแล้วใช่หม้าย" เป็นคำพูดที่ลุงพูดเตือนเพราะความเป็นห่วงในอนาคตและการดำรงชีวิตต่อไปในวันข้างหน้า จากคำพูดที่ลุงพูดวันนั้นทำให้กระผมเปลี่ยนความคิดจากการเล่นดนตรีคิดว่าต้องเรียนต่อและต้องเรียนให้จบในระดับปริญญาตรี ปี 2545 กระผมได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาในภาค กศ.บป.เอกวิชาการประถมศึกษาสำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2548พร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคนคือครูจี๊ดและครูษาที่เรียนมาด้วยกัน ความประทับใจที่ภาคภูมิใจอีกอย่างก็คือการสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้พร้อมกันหลังเรียนจบ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสอบเป็นข้าราชการครูได้และ สิ่งที่ทำให้กระผมคิดขณะเรียนในระด้บปริญญาตรี "ต้องเรียนให้จบเพื่ออนาคตของตัวเองและพ่อแม่"


ความประทับใจที่อยากจะบอกถึงครอบครัวฉัน จากอดีตที่ดูไม่ค่อยดีนักชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบแม่เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ชีวิตของกระผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกระผมคิดอยู่เสมอว่าทุกอย่างต้องทำได้และทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อนๆ พี่น้องทุกคนพูดไปต่างๆ นานา "ไม่คิดว่ามันจะทำได้" ครอบครัวคือบันไดที่นำพาเราไปสู่ความสำเร็จพ่อแม่คือแรงผลักดันและเป็นต้นแบบของคนทุกคนพ่อแม่ไม่เคยบอกถึงความต้องการท่จะเรียนหรือทำงานอะไรแต่เดิดจากความคิดของตัวกระผมเองและมีการให้กำลังใจและคิดอยู่ตลอดเวลาว่า "คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้"การศึกษาทำให้คนมองเห็นสิ่งใหม่ๆ มองเห็นอนาคตบวกกับความตั้งใจ ความพยายามในการศึกษาต่อกระผมคิดว่าความสำเร็จก็มีได้กับทุกคน

"การศึกษาคือความสำเร็จของชีวิต"


"ครอบครัวคือแรงผลักดันในการต่อสู้"


"อย่ามองว่าตัวเองทำไม่ได้ จงคิดว่าเราทำได้และทำได้ดีด้วย'




1 ความคิดเห็น: