วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

ประวัติส่วนตัว



ชื่อนายเดชา ภุมมาวงศ์
ชื่อเล่น: โย
วัน/เดือน/ปีเกิด 28 เมษายน 2518 อายุ 33 ปี
อาชีพ:ครู ตำแหน่ง ครู คศ. 1
อยู่บ้านเลขที่ 966 ม.4 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่:ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบฯ
คติ: รู้คุณคนเป็นผลบุญอันประเสริฐ

แนะนำตัวเอง



วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

ความประทับใจที่แตกต่าง








เพื่อนที่ผมประทับใจ
เมื่อปี 2547มีรายการประกวดร้องเพลงทางช่อง 9 เป็นรายการที่คนดูต้องให้คะแนนนักร้องทางหมายเลขโทรศัพท์ซึ่งเพื่อนของกระผมได้เข้าประกวดในรายการที่มีชื่อว่า the star เป็นรายการประกวดร้องเพลงที่คัดเอานักร้องที่มาสมัครทั่วประเทศทั่วทุกภาคของเมืองไทยคัดเพื่อเข้ารอบแค่แปดคนสุดท้ายและหาแชมป์เพียงคนเดีย
จากวันนั้นเมื่อเสียงพิธีกรบนเวทีประกาศผลการแข่งขันเสียที่ทุกคนยากทราบและอยากจะรู้ผลการแข่งขัน เสียงที่ทุกคนได้ยินคือ "the star ค้นฟ้าคว้าดาว คนแรกของเมืองไทยได้แก่ คุณ สนธยา ชิตมณี"เมื่อย้อนกลับไปในสมัยวัยเรียนที่สนธยา เรียนโรงเรียนเดียวกัน ผมอายุแก่กว่าสนธยา 3ปี เห็นเขาชอบร้องเพลง เล่นกีตาร์ ให้เพื่อนๆฟังแอบนึกอยู่ในใจว่า "มันเก่งวะ"และไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำงานด้วยกัน สนธยากับกระผมร้องเพลงตามร้านอาหารในตัวเมืองหาดใหญ๋ จากความสามารถบวกกับมุกตรกบนเวทีจึงทำให้สนธยาเป็นที่รู้จักในวงการนักร้องเพลงเพื่อชีวิตในหาดใหญ่
ความประทับใจที่อยากจะบอกถึงเพื่อนที่ชื่อว่าสนธยา ชิตมณี คือ สนเป็นคนที่กระผมชักชวนให้เขาเข้ามาเล่นดนตรีในหาดใหญ่เพราะเห็นถึงความสามารถ และมีความตั้งใจในการทำงาน อดีตสนเป็นคนเกเร เคยติดยา ขี้เมาแต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 10 ปีที่อยู่ในวงการร้องเพลงกลางคืนทำให้สนธยาเติบโต จนมีอะไรดีๆ เข้ามาจนถึงทุกวันนี้ มีงานละคร และงานภาพยนตร์ ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาจนถึงทุกวันนี้


"การให้โอกาสคนทุกคนถือว่าเป็นการสร้างผลผลิตของสังคม"

"ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถที่คนเราทำไม่ได้"

"การเป็นตัวของตัวเองและมีจุดยีนที่ถูกต้องทำให้เรามีผลสำเร็จ"




ครอบครัวและเพื่อนของผม

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญของคนทุกคนถ้าเรามีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนทุกอย่างก็จะประสพความสำเร็จ กระผมมีโอกาสได้รับการศึกษาในระดับปริญญาตรีในขณะที่กระผมเล่นดนตรีควบคู่ไปด้วย กระผมมีแรงบันดาลใจจากลุงของผม "จะเล่นดนตรีไปตลอดเหรอ หม้ายคิดจะทำงานไออื่นแล้วใช่หม้าย" เป็นคำพูดที่ลุงพูดเตือนเพราะความเป็นห่วงในอนาคตและการดำรงชีวิตต่อไปในวันข้างหน้า จากคำพูดที่ลุงพูดวันนั้นทำให้กระผมเปลี่ยนความคิดจากการเล่นดนตรีคิดว่าต้องเรียนต่อและต้องเรียนให้จบในระดับปริญญาตรี ปี 2545 กระผมได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาในภาค กศ.บป.เอกวิชาการประถมศึกษาสำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2548พร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคนคือครูจี๊ดและครูษาที่เรียนมาด้วยกัน ความประทับใจที่ภาคภูมิใจอีกอย่างก็คือการสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้พร้อมกันหลังเรียนจบ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสอบเป็นข้าราชการครูได้และ สิ่งที่ทำให้กระผมคิดขณะเรียนในระด้บปริญญาตรี "ต้องเรียนให้จบเพื่ออนาคตของตัวเองและพ่อแม่"


ความประทับใจที่อยากจะบอกถึงครอบครัวฉัน จากอดีตที่ดูไม่ค่อยดีนักชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบแม่เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ชีวิตของกระผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกระผมคิดอยู่เสมอว่าทุกอย่างต้องทำได้และทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อนๆ พี่น้องทุกคนพูดไปต่างๆ นานา "ไม่คิดว่ามันจะทำได้" ครอบครัวคือบันไดที่นำพาเราไปสู่ความสำเร็จพ่อแม่คือแรงผลักดันและเป็นต้นแบบของคนทุกคนพ่อแม่ไม่เคยบอกถึงความต้องการท่จะเรียนหรือทำงานอะไรแต่เดิดจากความคิดของตัวกระผมเองและมีการให้กำลังใจและคิดอยู่ตลอดเวลาว่า "คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้"การศึกษาทำให้คนมองเห็นสิ่งใหม่ๆ มองเห็นอนาคตบวกกับความตั้งใจ ความพยายามในการศึกษาต่อกระผมคิดว่าความสำเร็จก็มีได้กับทุกคน

"การศึกษาคือความสำเร็จของชีวิต"


"ครอบครัวคือแรงผลักดันในการต่อสู้"


"อย่ามองว่าตัวเองทำไม่ได้ จงคิดว่าเราทำได้และทำได้ดีด้วย'




วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552

ดนตรี..

ดนตรี คือ ลักษณะของเสียงที่ได้รับการจัดเรียบเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีแบบแผนและโครงสร้างชัดเจน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ 3 ด้านใหญ่ ๆ คือ เพื่อความสุนทรีย์, เพื่อการบำบัดรักษา และเพื่อการศึกษา
ความหมายของดนตรีบำบัด คือ การวางแผนในการใช้กิจกรรมทางดนตรีควบคุม ในกลุ่มของคนทุกวัยไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก จนถึงวัยสูงอายุ เพื่อให้เกิดผลบรรลุในการรักษาโรคต่างๆ ที่เกิดมาจากความบกพร่องต่างๆ เช่น ความผิดปกติทางด้านอารมณ์ ทางร่างกาย และสติปัญญา
ดนตรีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ และการทำงานของสมองในหลาย ๆ ด้าน จากการศึกษาวิจัยพบว่าผลของดนตรีต่อร่างกาย สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
อัตราการหายใจ, อัตราการเต้นของชีพจร, ความดันโลหิต, การตอบสนองของม่านตา, ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ และการไหลเวียนของเลือด จึงมีการนำดนตรีมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้ เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ เรียกกันว่าดนตรีบำบัด (music therapy)ประโยชน์ของดนตรีบำบัดมีหลายประการ เช่น ช่วยปรับสภาพจิตใจ ให้อยู่ในสภาวะสมดุล มีมุมมองในเชิงบวก ผ่อนคลายความตึงเครียด ลดความวิตกกังวล กระตุ้น เสริมสร้าง และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ และความจำ กระตุ้นประสาทสัมผัส การรับรู้ เสริมสร้างสมาธิ พัฒนาทักษะสังคม พัฒนาทักษะการสื่อสารและการใช้ภาษา พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว ลดความตึงตัว ของกล้ามเนื้อ ลดอาการเจ็บปวดจากสาเหตุต่าง ๆ ปรับลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สร้างสัมพันธภาพที่ดีในการบำบัดรักษาต่าง ๆ และช่วยเสริมในกระบวนการบำบัดทางจิตเวช ทั้งในด้านการประเมินความรู้สึก สร้างเสริมอารมณ์เชิงบวก การควบคุมตนเอง การแก้ปมขัดแย้งต่าง ๆ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของ


..การสอนให้เด็กพิการเกิดความสนุกโดยเฉพาะการร้องเพลงเล่นดนตรีถือเป็นวิธีในการเรียนการสอนที่มีบทบาทอย่างมากเพลงและเสียงดนตรีคือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เด็กพิการเกิดพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กพิการแต่ละคนมีความแตกต่างกันการทำให้เด็กพิการอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข "ครู" คือบุคคลที่ถ่ายทอดความรู้ มีความเข้าใจบวกกับความรู้สึกที่ดีให้กับเขาและความตั้งใจของครูผู้สอนและวิธีการนำเสนอในการสอนที่แตกต่างจากคนอื่นและการเรียนการสอน ณ ปัจจุบันถือว่าประสพความสำเร็จในระดับหนึ่ง อนาคตก็จะพยายามทำงานที่เกี่ยวกับเด็กพิการให้ดีที่สุด



"มีจิตใจดี มีเมตตา ครูคือผู้ให้อย่างแท้จริง"

"เด็กพิการต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"

"มีอีกสักกี่คนที่มีความรักให้กันเด็กพิการ"